วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

สรุปบทที่ 6 ระบบสารสนเทศทางการผลิต

สรุปบทที่ 6 ระบบสารสนเทศทางการผลิต
                ระบบสารสนเทศทางการผลิต นับเป็นเครื่องของการนำเสนอสารสนเทศการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้สารสนเทศด้านการวางแผน การจัดการ การควบคุมการผลิตและการดำเนินงาน ตลอดจนการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากกระบวนการผลิตซึ่งความต้องการสารสนเทศนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ล่ะองค์การ เช่น ธุรกิจอุตสาหกรรม จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไปจากธุรกิจบริการ หรือธุรกิจบริการโรงพยาบาลจะมีความต้องการสารสนเทศที่แตกต่างไปจากธุรกิจบริการในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
การจัดการการผลิตและการดำเนินงาน
                การผลิตและการดำเนินงาน  คือ กิจกรรมหลักกิจกรรมหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้โซ่คุณค่าขององค์การ ซึ่งถือเป็นกระบวนการสร้างมูลค่าให้กับการแปรรูปปัจจัยการผลิตให้ผลิตภัณฑ์อันทรงคุณค่าส่งตรงถึงมือลูกค้าหรือผู้บริโภค
                1.แนวคิดและความหมาย
                การผลิตและการดำเนินงานคือ การนำทรัพยากรต่างๆ ทั้งด้านแรงงาน เงินทุน เครื่องจักร เทคโนโลยี วิธีการ วัตถุดิบ ความต้องการของตลาด การจัดการและเวลา ซึ่งรวมเรียนว่า  ปัจจัยการผลิต โดยผ่านกระบวนการผลิตในขั้นตอนต่างๆ เพื่อทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมายรวมถึงสินค้าและบริการ
                กระบวนการผลิต คือ กิจกรรมการแปรรู  ละเพิ่มมูลค่าให้กัปัจจัยการผลิตเพื่อเข้าสู่รูแบบของสินค้าหรือบริการซึ่งพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าและในแต่ละกระบวนการผลิตจะประกอบด้วยกระบวนการผลิตหลายกระบวนการ
                2.วิวัฒนาการการผลิต
                ในระยะเริ่มต้นในการดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ธุรกิจส่วนใหญ่ดำเนินการผลิตบนพื้นที่การผลิตเก็บเป็นสินค้าคงคลัง(Make-to-Stock) อย่างง่าย ซึ่งมีจุดเน้นด้านการผลิตสินค้าปริมาณมากและการผลิตเก็บสินค้าผ่านเครือข่ายของช่องทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ มีการสร้างระบบข้อมูลที่ใช้ติดตามรอยการหมุนเวียนของสิ้นค้าคงเหลือ และทำให้ทราบถึงระดับของสิ้นค้าคงเหลือแต่ละรายการสำหรับงานการผลิต
                3.กลยุทธ์การผลิตและการดำเนินงาน
                กลยุทธ์ที่ 1  การผลิตเก็บเป็นสินค้าคงคลัง  ธุรกิจจะมีการผลิตสินค้า เพื่อเก็บเป็นสินค้าคงคลังที่พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้าได้ทันที
                กลยุทธ์ที่ 2 การผลิตตามคำสั่ง ในการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าโดยผลิตเป็นล็อต (Lot Production) ในปริมาณน้อย
                กลยุทธ์ที่ 3 การประกอบสินค้าตามคำสั่ง เป็นการประสินค้าส่วนมาตรฐานตามข้อกำหนดผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า

                4.หน้าที่ทางการผลิตและการดำเนิน
                หน้าที่การผลิตและการดำเนินนับเป็นปัจจัยสำคัญทางธุรกิจซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆที่ก่อให้เกิดผลผลิตในรูปแบบสินค้าหรือบริการจัดแบ่งหน้าที่เป็นสองด้าน คือ หน้าที่ด้านการผลิต หน้าที่ด้านโรงงานโดยแบ่งหน้าที่การผลิตได้
                4.1 การวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์
                4.2 การออกแบบกระบวนการผลิต
                4.3 การวางแผนทำเลที่ตั้งโรงงาน
                4.4 การวางแผนการผลิตและการดำเนินงาน
                4.5 การจัดการวัสดุและสินค้าคงเหลือ
                4.6 การควบคุมคุณภาพสินค้า
                4.7 การลดต้นทุนการผลิตสินค้า
                4.8 การขจัดความสูญเปล่า
                4.9 ความปลอดภัยในโรงงาน
                4.10 การเพิ่มผลิตภาพทางการผลิต
                4.11 การบำรุงรักษา
                4.12 การประสานงานกับหน่วยอื่น
                5.การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์
                การจัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain Managemet ) หมายถึง การกำหนดกระบวนการบูรณาการเรื่องการวางแผน การจัดการ การผลิต การจัดส่ง และการคืนสินค้า โดยรับต้นตั้งแต่ผู้ขายทุกระดับจนถึงผู้ซื้อทุกระดับตลอดจนวางแนวทางต้านกลยุทธ์การปฏิบัติขององค์การซึ่งก่อให้เกิดการไหลของสินค้าตลอดจนสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
                6.ระบบการผลิตยุคใหม่
                6.1 ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี  แนวคิดทางการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและถือเป็นส่วนหนี่งของระบบการผลิตแบบโตโยต้า  ซึ่งยึดหลักสำคัญคือ ผลิตในจำนวนเท่าที่ต้องการในเวลาที่ต้องการและมีการควบคุมสินค้าคงเหลือให้เหลือน้อยที่สุด
                6.2 ระบบการผลิตแบบลีน เป็นระบบการผลิตที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าทำให้เกิดมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูงและมุ่งขจัดความสูญเปล่าอันสืบเนื่องมากจากทางด้านคุณภาพราคาการจัดส่งสินค้าและบริการสินค้า
สารสนเทศทางการผลิต
                1.แนวคิดและความหมาย
                สารสนเทศทางการผลิต คือ สารสนเทศที่ได้รับจากการประมวลของระบบสารสนเทศทางการผลิตซึ่งต้องอาศัยข้อมูลและสานสนเทศทางภายในและภายนอกองค์การ
                2.การจำแนกประเภท
สารสนเทศการผลิตสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
                2.1สารสนเทศเชิงปฏิบัติการ
                                2.1.1สารสนเทศด้านการดำเนินการผลิต
                                2.1.2สารสนเทศด้านการควบคุมคุณภาพ
                                2.1.3สารสนเทศด้านการแก้ปัญหา
                2.2 สารสนเทศด้านการบริหาร
                                2.2.1สารสนเทศด้านการออกแบบการผลิต
                                2.2.2สารสนเทศด้านการวางแผนการผลิต
                                2.2.3สารสนเทศด้านการจัดการโลจิสติกส์
                2.3 สารสนเทศภายนอกองค์การ
                                2.3.1สารสนเทศด้านผู้ขายวัสดุ
                                2.3.2สารสนเทศด้านการส่งวัสดุ
กระบวนการทางธุรกิจสารสนเทศ
1.การออกแบบการผลิต
                มีหน้าที่สำคัญของการผลิต คือ จะต้องมีการออกแบบการผลิตในแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องงานด้านการวางแผนและการดำเนินการผลิตซึ่งจำแนกระบบออกแบบได้ 2 กระบวนการ
                การออกแบบผลิตภัณฑ์
                การออกแบบระบบการผลิต
2.ระบบการวางแผนการผลิต
                2.1การวางแผนการผลิตรวม
                2.2การจัดตารางการผลิต
                2.3การวางแผนความต้องการวัสดุ
                2.4การวางแผนทรัพยากรการผลิต
3.ระบบการจัดการโลจิสติกส์
                3.1โลจิสติกส์ขาเข้า
                3.1.1การจัดหาวัสดุ
                3.1.2การตรวจรับวัสดุ
                3.1.3การควบคุมวัสดุ
                3.2การจัดการสินค้าคงเหลือ

สรุปบทที่ 7 ระบบสารสนเทศทางการตลาด

บทที่ 7 ระบบสารสนเทศทางการตลาด
แนวคิดและความหมาย
                Laudon and Laudon ได้ให้นิยามไว้ว่า ระบบสารสนเทศทางการตลาด หมายถึง ระบบที่ใช้สนับสนุนกิจกรรมของหน้าที่งานด้านการขายและการตลาด เช่น กระระบุถึงความจำเป็นและความต้องการของลูกค้า การวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสนองตอบความจำเป็นและความต้องการนั้น อีกทั้งยังมีการนำระบบสารสนเทศด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) มาใช้เพื่อการติดต่อประสานงานที่ดีกับลูกค้า สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
                คอตเลอร์ ได้ให้นิยามไว้ว่า ระบบสารสนเทศทางการตลาด หมายถึง ระบบที่ประกอบด้วยคน เครื่องมืออุปกรณ์และกระบวนการเก็บรวบรวม จำแนกแยกประเภท วิเคราะห์ประเมิน ตลอดจนการแจกจ่ายสารสนเทศที่ถูกต้องแม่นยำ ทันเวลาและตรงตามความต้องการ มีระบบย่อย ดังนี้
                1. ระบบระเบียนข้อมูลในกิจการ
                2. ระบบอัจฉริยะทางการตลาด
                3. ระบบวิจัยการตลาด
                4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางการตลาด
                5. ระบบพยากรณ์ยอดขาย
หลักการตลาด
1. แนวคิดและความหมาย
               คอตเลอร์ และอาร์มสตรอง ได้ให้นิยามว่า การตลาด หมายถึง กระบวนการทางสังคมและการจัดการที่มุ่งสนองถึงความจำเป็น และความต้องการให้กับบุคคลและกลุ่มต่าง ๆ โดยอาศัยการสร้างสรรค์ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนคุณค่าและผลิตภัณฑ์ให้กับผู้อื่น
                สรุปได้ว่า ปัจจุบันองค์การธุรกิจมีการใช้ปรัชญาทางการตลาด 2 แนวทาง คือ ปรัชญาด้านการตลาดและปรัชญาด้านการตลาดเพื่อสังคม ซึ่งประกอบด้วยหลักการ 3 ข้อ ดังนี้
                1. จะต้องมีการตอบสนอง และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
                2. จะต้องมีการบูรณาการและความร่วมมือของทุกฝ่ายในองค์การ
                3. จะต้องมีการมุ่งเน้นไปที่ผลสำเร็จในระยะยาว และการให้ความสำคัญกับการความจงรักภักดีของลูกค้าที่มีต่อองค์การ
 2. องค์ประกอบทางการตลาด
                2.1 การแลกเปลี่ยนทางการตลาด คือ การโยกย้าย หรือโอนสิ่งที่จับต้องได้หรือจับต้องไม่ได้
                2.2 กลยุทธ์ทางการตลาด คือ การกำหนดตลาดเป้าหมาย และการพัฒนาส่วนประสมทางการตลาด เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าภายใต้ตลาดเป้าหมาย
                2.3 กิจกรรมทางการตลาด  คือ ต้องกระทำเพื่อการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปสู่ลูกค้าคนสุดท้าย
                2.4 ตำแหน่งงานทางการตลาด คือ การกำหนดตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการตลาด โดยบางตำแหน่งอาจต้องการความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ
                2.5 สถาบันทางการตลาด คือ องค์การที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในกิจกรรมการตลาดเฉพาะทาง โดยองค์การเหล่านี้จะต้องเป็นผู้คอยช่วยเหลือธุรกิจด้านต่าง ๆ
3. การส่งมอบคุณค่าเพื่อลูกค้า
                3.1 การเลือกคุณค่า ในส่วนนี้ต้องทำการวิเคราะห์ เพื่อทำความเข้าใจถึงความจำเป็นของลูกค้า
                                3.1.1 การแบ่งส่วนตลาด คือ การตัดสินใจว่าส่วนตลาดใด คือ โอกาสในการบรรลุเป้าหมาย โดยอาจใช้เกณฑ์หลายลักษณะ เช่น เกณฑ์ภูมิศาสตร์ ประชากรศาสตร์
                                3.1.2 การกำหนดตลาดเป้าหมาย คือ ทำการประเมินความน่าสนใจของแต่ละส่วนตลาด และเลือกตลาดที่มีโอกาสสร้างคุณค่าแก่ลูกค้ามากที่สุด
                                3.1.3 การวางตำแหน่งมูลค่าตลาด คือ การจัดตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่มีความชัดเจนมีลักษณะเฉพาะและสร้างความพึงปรารถนาภายในจิตใจของลูกค้า
                3.2 การจัดหาคุณค่า ในส่วนนี้องค์การต้องอาศัยกระบวนพัฒนาส่วนประสมการตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์ ราคา และช่องทางการจำหน่าย
                                3.2.1 ผลิตภัณฑ์ คือ สิ่งใด ๆ ก็ตามที่เสนอให้แก่ตลาด เพื่อสร้างความสนใจ ความเป็นเจ้าของ โดยตอบสนองถึงความจำเป็นและความต้องการของลูกค้าเท่านั้น
                                3.2.2 ราคา คือ มูลค่าที่กำหนดไว้สำหรับการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ หรือจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์นั้น
                                3.2.3 การจัดจำหน่าย คือ การจัดกิจกรรม หรือวิธีการเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มลูกค้าในตลาดเป้าหมาย เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายของการแลกเปลี่ยน
                3.3 การสื่อสารคุณค่า ในส่วนนี้องค์การ ต้องอาศัยกระบวนการพัฒนาส่วนประสมทางการตลาด ในส่วนการสื่อสารการตลาดเข้าช่วย เพื่อสื่อสารถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์
                                3.3.1 การโฆษณา คือ ช่องทางที่ไม่ใช้บุคคล แต่ใช้สื่อโฆษณาในการแจ้งข่าวสาร
                                3.3.2 การขายโดยบุคคล คือ ช่องทางการสื่อสารซึ่งใช้พนักงานขายที่มีความรู้ในผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี สามารถนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มลูกค้าที่คาดหวังเห็นได้
                                3.3.3 การส่งเสริมการขาย คือ การใช้เครื่องมือส่งเสริมการขาย ในรูปของการลดราคา การแลกซื้อสินค้าพรีเมียม การแจกตัวอย่างสินค้า และการแถมสินค้า วิธีนี้ใช้กับผลิตภัณฑ์ความเกี่ยวเนื่องต่ำ
                                3.3.4 การประชาสัมพันธ์ คือ การสื่อสารที่สร้างความเข้าใจอันดีกับกลุ่มลูกค้า คนกลางในชิ่งทางการจัดจำหน่าย หน่วยงานของรัฐ สถาบันทางการเงิน และบริษัทตัวแทนโฆษณา
                                3.3.5 การตลาดโดยตรง ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยอาจเลือกใช้สื่อโทรศัพท์ หรือจดหมายส่งตรงถึงลูกค้า ซึ่งทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นง่าย
                                3.3.6 การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ หรือการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร คือ การเลือกสรรเครื่องมือการสื่อสารที่เหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนลักษณะตลาด
                                3.3.7 การสื่อสารตราสินค้า คือ การสร้างส่วนทุนตราสินค้า หรือสร้างคุณค่าของตราสินค้า ซึ่งนำไปสู่ความจงรักภักดีในตราสินค้าได้
 4. บทบาททางการตลาด
                1. ช่วยแก้ปัญหาด้านผลการดำเนินงานขององค์การที่ประสบภาวะขาดทุน โดยดำเนินโปรแกรมการตลาด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของผลิตภัณฑ์และบริการ และอาศัยการวิจัยการตลาดเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
                2. ช่วยแก้ปัญหาด้านการครอบครองส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยมีแนวโน้มของการควบรวมบริษัทต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทั้งในส่วนธุรกิจประเภทเดียวกัน
                3. ช่วยให้พนักงานที่มีพื้นฐานและประสบการณ์ทางการตลาดประสบผลสำเร็จและมีความก้าวหน้าในอาชีพในฐานะผู้บริหารระดับสูงของกิจการ
สารสนเทศทางการตลาด
1. แนวคิดและความหมาย
                สารสนเทศทางการตลาด หมายถึง สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผลของระบบสารสนเทศทางการตลาด ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลและสารสนเทศทั้งจากภายในและภายนอกองค์การ โดยใช้กิจกรรมสนับสนุนทางการตลาดทั้งในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย การตั้งราคาผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจทางการตลาด การสื่อสารทางกาตลาด และการพยากรณ์ยอดขาย
 2. การจำแนกประเภท
                2.1 สารสนเทศเชิงปฏิบัติการ ได้รับจากการปฏิบัติงานด้านการตลาด เพื่อสร้างยอดขายของธุรกิจ
                                2.1.1 สารสนเทศด้านลูกค้า
                                2.1.2 สารสนเทศด้านการขาย
                                2.1.3 สารสนเทศด้านสินค้า
                2.2 สารสนเทศเชิงบริหาร ใช้สนับสนุนงานการบริหารการตลาด และการพัฒนาส่วนประสมทางการตลาด
                                2.2.1 สารสนเทศด้านพัฒนา
                                2.2.2 สารสนเทศด้านการสื่อสารการตลาด
                                2.2.3 สารสนเทศด้านการตั้งราคาสินค้าหรือบริการ
                                2.2.4 สารสนเทศด้านพยากรณ์ยอดขาย
                2.3 สารสนเทศภายนอกองค์การ ได้มาจากกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสภาพแวดล้อมภายนอก
                                2.3.1 สารสนเทศด้านวิจัยการตลาด
                                2.3.2 สารสนเทศด้านข่าวกรองทางการตลาด
กระบวนการทางธุรกิจของระบบสารสนเทศ
                1. ระบบระเบียนข้อมูลในกิจการ คือ ระบบการบันทึกข้อมูลพื้นฐานในองค์การซึ่งนำมาใช้กับการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
                                1.1 ระบบสารสนเทศทางการขาย  คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นด้วยความมุ่งหวังที่จะทราบยอดขายของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับสารสนเทศอื่น
                                1.2 ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์  คือ ระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นใช้งานด้านการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เพื่อสนับสนุนงานบริการให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด และกลับมาซื้อสินค้าซ้ำในอนาคต
                2. ระบบอัจฉริยะทางการตลาด คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข่าวกรองทางการตลาด ที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งและสภาพแวดล้อมทางการตลาด เพื่อนำมาตัดสินใจทางกลยุทธ์ และประเมินสถานการณ์ทางการแข่งขัน
                3. ระบบวิจัยการตลาด คือ ระบบที่พัฒนาขึ้น เพื่อใช้สนับสนุนด้านการวิจัยการตลาด โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ต้องการศึกษาอย่างเป็นทางการในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง
                4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางการตลาด คอตเลอร์ ได้นิยามไว้ว่า การนำเอาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มาใช้ในการเก็บข้อมูล วางระบบโดยการประสานกันของเครื่องมือทางสถิติ ตัวแบบและเทคนิคการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อช่วยให้องค์การสามารถเก็บรวบรวม เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานของการดำเนินการด้นการตลาดต่อไป
                                4.1 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือ ระบบซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนสภาพวัตถุดิบเป็นสินค้าสำเร็จรูปหรือบริการ ที่มุ่งหวังในด้านคุณลักษณะทางกายภาพผลิตภัณฑ์
                                4.2 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจด้านโฆษณาและส่งเสริมการขาย คือ ระบบที่ใช้สนับสนุนงานส่วนหนึ่งของการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ โดยธุรกิจมักใช้วิธีการโฆษณาและส่งเสริมการขายร่วมกัน เพื่อสื่อสารถึงลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจ
                                4.3 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจด้านการตั้งราคาผลิตภัณฑ์ คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนหน้าที่งานด้านการตั้งราคาผลิตภัณฑ์ โดยจำแนกเป็นการตั้งราคาปลีก ขายส่ง หรือราคาพร้อมส่วนลด ซึ่งมุ่งหวังยอดขายสูงสุด
                                4.4 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจด้านพยากรณ์ยอดขาย คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อค้นหาโอกาสทางการตลาด และทำการพยากรณ์ศักยภาพในการทำกำไรของแต่ละโอกาสทางการตลาด เพื่อนำไปใช้สำหรับการจัดหาเงินสดในการลงทุนและดำเนินงาน โดยมีขั้นตอนการพยากรณ์ยอดขาย ดังนี้
                                ขั้นตอนที่ 1 ทำการวัดอุปสงค์ของตลาด
                                ขั้นตอนที่ 2 ทำการพยากรณ์ศักยภาพของตลาด
                                ขั้นตอนที่ 3 ทำการกำหนดอุปสงค์ของบริษัท
                                ขั้นตอนที่ 4 ทำการคัดเลือกระดับความพยายามทางการตลาด
                                ขั้นตอนที่ 5 ทำการพยากรณ์ยอดขาย
เทคโนโลยีทางการตลาด                                                                            
                1. โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการตลาด คือ ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ประเภทหนึ่งที่วางขายอยู่ในตลาดซอฟต์แวร์ ถูกพัฒนาขึ้นใช้เฉพาะกับงานด้านการตลาด และจำเป็นต้องใช้ร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูล เพื่อสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
                                1.1 โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการขาย ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระบบการขายและรับชำระเงิน
                                1.2 โปรแกรมจัดการลูกค้าสัมพันธ์  คือโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่นำมาซึ่งการสร้างความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับลูกค้าในระยะยาว วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับองค์การ
                                1.3 โปรแกรมบริหารการขนส่ง คือ การจัดการขนส่งเพื่อส่งมอบสินค้าหรือบริการให้ถึงมือลูกค้า
                2. นวัตกรรมด้านร้านค้าปลีก  ปัจจุบันมีการจัดร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่โดยมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเลือกซื้อสินค้า การตรวจสอบและรับชำระค่าสินค้า ซึ่งเป็นการลดกระบวนการซื้อและลดระยะเวลาการรอคอย
                3. หน่วยขายอัตโนมัติ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายของพนักงานขาย โดยอยู่ในรูปแบบของการใช้มือถือเคลื่อนที่ที่สามารถใช้เข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลของบริษัทได้
                4. การใช้งานอินทราเน็ต โดยใช้ในการควบคุมและติดต่อประสานงานในส่วนกิจกรรมขาย นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อของลูกค้า ข้อมูลการจัดส่งสินค้าและรับชำระเงินตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขายผ่านอินทราเน็ตด้วย
                5. การใช้งานอินเทอร์เน็ต ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าบนเว็บ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ณ ที่บ้าน หรือสำนักงานของลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานขาย
                                5.1 การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการนำเสนอสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้าด้วยระบบดิจิทัลและยังเพิ่มเปอร์เซ็นต์การขายผลิตภัณฑ์จากผลิตภัณฑ์ปกติ
                                5.2 การสื่อสารการตลาด สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากด้วยวิธีการง่าย ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสาร เพื่อใช้ส่งข่าวสารต่อลูกค้าในเชิงโต้ตอบ
                                5.3 การโฆษณาออนไลน์ เพื่อโฆษณาและขายผลิตภัณฑ์ ผลดี คือ ช่วยลดค่าใช้จ่าย
                                5.4 การอีเมล มีการรับส่งข่าวสารที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ
                                5.5 ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ เป็นแหล่งรวมของผู้ต้องการซื้อและผู้ต้องการขาย มีจุดมุ่งหมายที่สอดคล้องกัน
                                5.6 การพาณิชย์แบบเคลื่อนที่ เป็นรูปแบบหนึ่งของระบบส่งเสริมการขายของธุรกิจ ที่พกพาอุปกรณ์สื่อสารเข้ามา ณ บริเวณใกล้เคียงกับสำนักงานของบริษัท
                                5.7 การพาณิชย์แบบร่วมมือ ทันสมัยที่สุด และเปิดโอกาสให้หลายกิจกรรมทำงานร่วมกันแบบออนไลน์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ก่อให้เกิดรายได้
                6. การทำเหมืองข้อมูลทางการตลาด การทำโกดังข้อมูลร่วมกับสารสนเทศทางการตลาด จะช่วยสร้างชุดเครื่องมือปรับการปฏิบัติการดีเลิศ สำหรับงานด้านการขายและการตลาด สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันให้ธุรกิจ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ให้แก่ธุรกิจ